1. ส่วนที่ห่อหุ้มเซลล์
ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ ผนังเซลล์
และเยื่อหุ้มเซลล์
1.1 ผนังเซลล์ (cell wall) เป็นผนังแข็งแรงอยู่ชั้นนอกสุด
มีลักษณะเป็นรูพรุนยอมให้สารผ่านเข้าออกได้สะดวกประกอบขึ้นจากสารเซลลูโลส (cellulose)
เป็นสำคัญ ช่วยให้เซลล์พืชแข็งแรงทนทานอยู่ได้นานนับปี
แม้ว่าเซลล์อาจตายไปแล้วก็ตาม และถ้านาเซลล์พืชแก่ๆไปแช่ในน้ากลั่น
เซลล์ก็จะไม่แตก เพราะผนังเซลล์มีแรงต้านสูง
ส่วนเซลล์ของสัตว์ไม่มีผนังเซลล์แต่เซลล์สัตว์บางชนิดอาจมีสารเคลือบเยื่อหุ้มเซลล์ได้
ซึ่งมีลักษณะแตกต่างกันไปแล้วแต่ชนิดของเซลล์นั้นๆ ตัวอย่างเช่น เปลือกกุ้ง
กระดองปู มีสารเคลือบพวกไกลโคโปรตีน (glycoprotein) เซลล์ของพวกไดอะตอม
มีสารเคลือบเป็นพวกซิลิกา สารเคลือบเหล่นนี้มีประโยชน์ทาให้เซลล์คงรูปร่างได้
1.2 เยื่อหุ้มเซลล์ (cell
membrane หรือ plasma membrane) อยู่ถัดจากผนังเซลล์เข้ามา
มีลักษณะเป็นเยื่อบาง ๆ เหนียว ประกอบด้วยสารประเภทไขมันและโปรตีน รวมกัน เรียกว่า
ไลโพโปรตีนเยื่อหุ้มเซลล์มีรูเล็กๆสามารถจากัดขนาดของสารที่ผ่านเข้าออกได้
จึงมีสมบัติเป็นเยื่อเลือกผ่านซึ่งสารขนาดเล็กผ่านได้ ส่วนสารขนาดใหญ่ผ่านไม่ได้เป็นตัวควบคุมปริมาณและชนิดของสารบางอย่างเช่น
อาหาร อากาศ และสารละลายเกลือแร่ต่างๆ
และยังแสดงขอบเขตของเซลล์และห่อหุ้มส่วนประกอบในเซลล์
2.ไซโทรพลาซึม(cytoplasm)
ประกอบด้วยของเหลวซึ่งเป็นสารประกอบหลายชนิดรวมทั้งอวัยวะของเซลล์หรือออร์แกเนลล์(organelle)
ต่าง ๆ ซึ่งมีหน้าที่แตกต่างกัน ที่สาคัญ ได้แก่
- ไมโทคอนเดรีย
(mitochondria) มีหน้าที่เผาผลาญอาหารเพื่อสร้างพลังงานATPให้แก่เซลล์(การหายใจของเซลล์)พบมากในเซลล์กล้ามเนื้อ เซลล์ประสาท
และเซลล์ที่ทาหน้าที่เกี่ยวกับสิ่งขับถ่าย
- ไลโซโซม( lysosomes) มีลักษณะคล้ายถุงเล็ก ๆ
ภายในมีเอนไซม์สาหรับย่อยสารต่าง ๆ เช่น คาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีน ฟอสโฟไลพิด
และสิ่งที่เซลล์ไม่ต้องกัน
- ร่างแหเอนโดพลาซึมหรือเอนโดพลาสมิกเรติคิวลัม
(endoplasmic reticulum) ทาหน้าที่ขนส่งลาเลียงสิ่งต่าง ๆ
ภายในเซลล์ไปยังเซลล์ข้างเคียง
- กอลจิคอมเพลกซ์
( golgi complex) หรือกอจิบอดี (golgi bodies) ทาหน้าที่สะสมโปรตีนเพื่ออัดแน่นส่งออกนอกเซลล์
- คลอโรพลาสต์(chloroplast)พบเฉพาะในเซลล์พืทำหน้าที่สังเคราะห์ด้วยแสง
เนื่องจากเป็นที่อยู่ของคลอโรฟิลล์ (chlorophyll)
- ไรโบโซม(
ribosome) ทาหน้าที่สังเคราะห์โปรตีนในเซลล์
- เซนทริโอล
(centriole) พบเฉพาะในเซลล์สัตว์
ทาหน้าที่ช่วยในการแบ่งเซลล์และการเคลื่อนที่ของโครโมโซมของสัตว์
- แวคิวโอล
(vacuole) พบในเซลล์พืชและเซลล์สัตว์
มีขนาดใหญ่มากในเซลล์พืช ทาหน้าที่เก็บอาหารของเสีย
และเป็นที่พักอาหารก่อนเข้าสู่ไซโทพลาซึม
3.
นิวเคลียส (nucleus)
เป็นส่วนที่สาคัญของเซลล์โดยทั่วไปเซลล์จะมี1
นิวเคลียสยกเว้นในเซลล์บางชนิด เช่น เซลล์พารามีเซียมมี 2 นิวเคลียส เป็นต้นนิวเคลียสเป็นโครงสร้างของเซลล์ที่เด่นชัดมากอาจจะอยู่ตรงกลางเซลล์หรือค่อนไปข้างใดข้างหนึ่งของเซลล์มีลักษณะเป็นรูปทรงกลมหรือรูปไข่นิวเคลียสประกอบด้วยโครงสร้าง2ส่วนคือ
3.1 เยื่อหุ้มนิวเคลียส
(nuclear membrane) เป็นเยื่อหุ้ม 2 ชั้น
มีรูอยู่มากมายที่เรียกว่า นิวเคลียร์พอร์ (nuclear pores) ทาหน้าที่เป็นทางติดต่อกับร่างแหเอนโดพลาซึม
เพื่อแลกเปลี่ยนสารระหว่างนิวเคลียสกับไซโทพลาซึม
3.2 สารในนิวเคลียส
(nucleoplasm) เป็นส่วนที่อยู่ภายในนิวเคลียสทาหน้าที่เป็นตัวกลางสาหรับเกิดปฏิกิริยาเคมีต่างๆประกอบด้วย
นิวคลีโอลัส (nucleorus) ประกอบด้วยสาร RNA และ DNA เป็นส่วนใหญ่ ทาหน้าที่สร้างไรโบโซม
โครมาทิน ( chromatin) เป็นเส้นใยเล็ก ๆ ยาว ๆ
ขดไปมาเป็นร่างแห เมื่อหดตัวสั้น ๆ และหนาขึ้นเรียกว่า โครโมโซม (chromosome)
ซึ่งประกอบด้วยโปรตีนและ DNA หรือที่เรียกว่า
ยีน (Gene) และโปรตีนหลายชนิดบน DNA จะมีรหัสพันธุกรรมทาหน้าที่ควบคุมลักษณะต่าง
ๆ ของสิ่งมีชีวิต นิวเคลียสมีหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการควบคุมการถ่ายทอดลักษณะทาง
พันธุกรรมจากพ่อแม่ไปสู่ลูกหลานและควบคุมกระบวนการทางานต่างๆ ของเซลล์ เช่น
กระบวนการแบ่งเซลล์ การสังเคราะห์โปรตีน การสังเคราะห์เอนไซม์ เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น