1. การกินอาหาร
สิ่งมีชีวิตต้องการอาหารเพื่อสร้างพลังงานและการเจริญเติบโตโดยพืชสามารถสังเคราะห์อาหารขึ้นเองได้ด้วยกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงซึ่งต้องใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์เปลี่ยนน้ำและแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เป็นน้ำตาลส่วนสัตว์ไม่สามารถสร้างอาหารเองได้ต้องกินพืชหรือสัตว์อื่นเป็นอาหาร
สัตว์ต้องกินอาหารเพื่อสร้างพลังงานให้แก่ร่างกาย
2. การหายใจ กระบวนการหายใจของสิ่งมีชีวิตเป็นวิธีการเปลี่ยนอาหารที่กินเข้าไปเป็นพลังงานสำหรับใช้ในการเคลื่อนไหวการเจริญเติบโตและการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายสิ่งมีชีวิตทั่วไปใช้แก๊สออกซิเจนในกระบวนการหายใจ
แผนภาพแสดงสมการการหายใจของสิ่งมีชีวิต
3. การเคลื่อนไหว
ขณะที่พืชเจริญเติบโตพืชจะมีการเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ เช่น
รากเคลื่อนลงสู่พื้นดินด้านล่าง หรือส่วนยอดของต้นที่จะเคลื่อนขึ้นหาแสงด้านบน สัตว์จะสามารถเคลื่อนไหวได้ทั้งตัวไม่ใช่เพียงส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย
สัตว์จึงเคลื่อนที่ไปหาอาหารหรือหลบหนีจากการถูกล่าได้
สิ่งมีชีวิตทุกชนิดขณะมีชีวิตอยู่จะมีการเคลื่อนไหว
4. การเจริญเติบโต
สิ่งมีชีวิตทุกชนิดเติบโตได้พืชเติบโตได้ตลอดชีวิต ส่วนสัตว์หยุดการเจริญเติบโตเมื่อเจริญเติบโตจนมีขนาดถึงระดับหนึ่งสิ่งมีชีวิตบางชนิดขณะเจริญเติบโตไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างแต่บางชนิดขณะเจริญเติบโตมีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างซึ่งสามารถสังเกตเห็นได้
อย่างชัดเจน
ใบไมยราบจะหุบเมื่อถูกสัมผัส
สิ่งมีชีวิตมีการสืบพันธุ์เพื่อดำรงเผ่าพันธุ์
สิ่งมีชีวิตจะมีการเจริญเติบโต
5. การขับถ่าย เป็นการกำจัดของเสียที่สิ่งมีชีวิตนั้นไม่ต้องการออกจากร่างกาย
พืชจะขับของเสียออกมาทางปากใบสัตว์จะขับของเสียออกมาในรูปของเหงื่อ ปัสสาวะ
และปะปนออกมากับลมหายใจ
6. การตอบสนองต่อสิ่งเร้า
สิ่งมีชีวิตมีการตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อความอยู่รอด เช่น พืชจะหันใบเข้าหาแสง
สัตว์มีอวัยวะรับความรู้สึกที่แตกต่างกันหลายชนิด
7. การสืบพันธุ์
เป็นกระบวนการเพิ่มจำนวนของสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกันเพื่อดำรงรักษาเผ่าพันธุ์ไว้
ถ้าสิ่งมีชีวิตไม่สืบพันธุ์ก็จะสูญพันธุ์
ใส่แหล่งที่มาของข้อมูลด้วยค่ะ
ตอบลบ